ข่าวสาร

20 ปี EE Training: HITAP สานต่อพันธกิจ ยกระดับการใช้หลักฐานวิชาการเพื่อขับเคลื่อนนโยบายสุขภาพ

จำนวนเข้าชม

18
แชร์ข่าวสารนี้

เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2568 ณ โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท กรุงเทพฯ มูลนิธิเพื่อการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ (HITAP) ได้จัดการอบรม “การนำการประเมินความคุ้มค่าฯ มาใช้เชิงนโยบาย (Economic Evaluation in Policy หรือ EE in Policy)” ซึ่งเป็นหนึ่งในสามหลักสูตรของการอบรม “การประเมินความคุ้มค่าทางการแพทย์และสาธารณสุข ครั้งที่ 20” โดยมีผู้เข้าร่วมจากหลากหลายภาคส่วน ทั้งนักวิชาการ นักเศรษฐศาสตร์สาธารณสุข ผู้กำหนดนโยบาย บุคลากรทางการแพทย์ และผู้แทนจากอุตสาหกรรมยา

หลักสูตรนี้เป็นการต่อยอดจากการอบรมหลักสูตรพื้นฐานและหลักสูตรเชิงปฏิบัติการ (Basic และ Advanced) [คลิกอ่านบทความที่นี่] โดยมุ่งให้ผู้เข้าร่วมการอบรมเข้าใจบทบาทของการประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์ (economic evaluation) ในการขับเคลื่อนนโยบายด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะภายใต้บริบทที่ระบบสุขภาพต้องเผชิญกับข้อจำกัดและความท้าทายจากปัจจัยต่าง ๆ

เปิดความท้าทายของระบบสุขภาพผ่านมุมมองของผู้ทำงานจริง

ในเวทีเสวนาช่วงที่ 1 “จากงานวิจัยสู่สนามจริง: ความท้าทายเบื้องหลังการผลักดันยา–หัตถการสู่สิทธิประโยชน์สุขภาพ” คณะทำงานด้านนโยบายสุขภาพได้ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ตรงในการผลักดันยาและหัตถการเข้าสู่ชุดสิทธิประโยชน์แห่งชาติ วิทยากรประกอบด้วย ดร. นพ.วิโรจน์ ตั้งเจริญเสถียร ประธานอนุกรรมการกำหนดประเภทและขอบเขตบริการสาธารณสุข ผศ. ดร. ภญ.กุลจิรา อุดมอักษร ประธานคณะทำงานต่อรองราคายาเพื่อบรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติ รศ. ดร. ภญ.อัญชลี เพิ่มสุวรรณ นักวิจัยและคณะทำงานด้านเศรษฐศาสตร์สาธารณสุข และรศ. ดร. วรรณฤดี อิสรานุวัฒน์ชัย นักวิจัยและประธานร่วมคณะทำงานด้านเศรษฐศาสตร์สาธารณสุข ร่วมดำเนินการเสวนาโดย คุณพีรพล อนุตรโสตถิ์ ผู้จัดการศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์

บรรยากาศช่วงเสวนา “จากงานวิจัยสู่สนามจริง: ความท้าทายเบื้องหลังการผลักดันยา–หัตถการสู่สิทธิประโยชน์สุขภาพ” ซึ่งเปิดมุมมองจากคณะทำงาน ต่อความท้าทายในการผลักดันยาและหัตถการสู่สิทธิประโยชน์สุขภาพ รวมถึงผู้เข้าร่วมเสวนาร่วมซักถามและอภิปรายเชิงลึกกับคณะวิทยากร

ผู้เข้าร่วมได้เรียนรู้กระบวนการผลักดันนโยบายจากหลักฐานเชิงวิชาการสู่นโยบายสาธารณะ ผ่านกลไกสำคัญอย่างบัญชียาหลักแห่งชาติและชุดสิทธิประโยชน์แห่งชาติ โดยมีการประเมินเทคโนโลยีด้านสุขภาพ (health technology assessment หรือ HTA) เป็นเสมือนเครื่องมือกลางที่เชื่อมโยงมุมมองของทุกฝ่าย เพื่อให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างมีเหตุผล โปร่งใส และยึดประโยชน์สูงสุดของประชาชนเป็นหลัก นอกจากการแลกเปลี่ยนประสบการณ์จริงแล้ว วิทยากรยังได้ชี้ให้เห็นปัจจัยเชิงระบบที่ส่งผลต่อการตัดสินใจเชิงนโยบาย พร้อมสะท้อนแนวทางพัฒนาเพื่อยกระดับความยั่งยืนของกระบวนการในอนาคตอีกด้วย

แผนรับมือจาก 3 กองทุนสุขภาพในวันที่ทรัพยากรมีจำกัด แต่ความจำเป็นกลับไม่เคยลดลง

การเสวนาในช่วงที่ 2 “เมื่อความต้องการไม่ลด แต่มีงบจำกัด: 3 กองทุนมีแผนอย่างไร?” ดำเนินการเสวนาโดย รศ. นพ.นิพิฐ พิรเวช ที่ปรึกษาด้านระบบสุขภาพ ร่วมด้วยผู้แทนจากทั้ง 3 กองทุนสุขภาพหลักของประเทศ ได้แก่ ดร. นพ.วิโรจน์ ตั้งเจริญเสถียร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ พญ.ชุตินาถ ชินอุดม ที่ปรึกษาทีมประกันสังคมก้าวหน้า สำนักงานประกันสังคม และคุณสิทธิชัย งามเกียรติขจร ผู้อำนวยการกองสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ กรมบัญชีกลาง

ภาพบรรยากาศการเสวนาในหัวข้อ “เมื่อความต้องการไม่ลด แต่มีงบจำกัด: 3 กองทุนมีแผนอย่างไร?” ที่สะท้อนมุมมองเชิงนโยบายจากกองทุนสุขภาพทั้ง 3 กองทุน พร้อมการแลกเปลี่ยนมุมมองและประสบการณ์จากผู้เข้าร่วมเสวนา

การเสวนามุ่งสร้างความเข้าใจต่อความท้าทายของระบบสุขภาพไทยภายใต้โครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน พร้อมแลกเปลี่ยนแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรของแต่ละกองทุนอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน และตามด้วยการเปิดพื้นที่สนทนาเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของความร่วมมือระหว่างกองทุน เพื่อขับเคลื่อนการลดความเหลื่อมล้ำด้านสิทธิประโยชน์

ประเด็นสำคัญที่สะท้อนจากเวทีเสวนานี้คือ แม้ทรัพยากรจะจำกัด แต่ความจำเป็นทางสุขภาพจะไม่เคยลดลง การวางแผนเชิงยุทธศาสตร์และการบริหารจัดการเชิงระบบผ่านความร่วมมือของ 3 กองทุนหลัก จึงมีบทบาทสำคัญอย่างมากสำหรับระบบสารธารณสุขของประเทศไทย

Workshop: จำลองการออกแบบนโยบายเสมือนจริง

ช่วงสุดท้ายของการอบรม ผู้เข้าร่วมได้มีส่วนร่วมในกิจกรรม Workshop การออกแบบนโยบายจำลองเสมือนจริง” นำกิจกรรมโดยวิทยากร 2 ท่าน ได้แก่ ดร. นพ.ยศ ตีระวัฒนานนท์ ผู้ช่วยเลขาธิการมูลนิธิและนักวิจัยอาวุโส HITAP และคุณนัชชา ยงพิพัฒน์วงศ์ นักวิจัยโครงการวิจัยการถอดบทเรียนเพื่อนำไปสู่ข้อเสนอแนะเพื่อพัฒนานโยบายการบำบัดทดแทนไต ภายใต้ระบบประกันสุขภาพแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะนักวิจัยจาก HITAP โดยผู้เข้าร่วมแต่ละกลุ่มได้สวมบทบาทเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระบบสุขภาพ เช่น ผู้ป่วย นักวิจัย บุคลากรทางการแพทย์ และผู้กำหนดนโยบาย เพื่อระดมสมองในกลุ่มย่อย ร่วมกันวิเคราะห์ปัญหาและความท้าทายของบทบาทสมมติที่ได้รับตามปัจจัยของสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ก่อนร่วมกันตัดสินใจและออกแบบข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการบำบัดทดแทนไต โดยใช้แนวคิด Systems Thinking ซึ่งเน้นหลักการการมองระบบสุขภาพอย่างรอบด้านและเชื่อมโยงทุกภาคส่วนเข้าด้วยกัน

ช่วง workshop ผู้เข้าร่วมได้ฝึกปฏิบัติการออกแบบนโยบายในสถานการณ์จำลอง ผ่านการสวมบทบาทผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และอภิปรายในกลุ่มย่อยเพื่อพัฒนาข้อเสนอเชิงนโยบายบนพื้นฐานของ Systems Thinking

สู่การขับเคลื่อนระบบสุขภาพที่ยั่งยืน

การอบรมครั้งนี้เน้นย้ำถึงระบบสุขภาพที่มีประสิทธิภาพและเท่าเทียม โดยอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วนตั้งแต่ประชาชน ผู้ให้บริการสุขภาพ ตลอดจนผู้กำหนดนโยบาย ภายใต้กลไกการประเมินเทคโนโลยีด้านสุขภาพที่เข้มแข็ง โปร่งใส และขับเคลื่อนด้วยข้อมูลเชิงหลักฐานเชิงวิชาการ สอดคล้องกับพันธกิจของ HITAP ในการผลักดันนโยบายสุขภาพที่ตอบโจทย์ประชาชนและยั่งยืน