มูลนิธิเพื่อการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ (HITAP) ก่อตั้งฝ่ายวิจัยนานาชาติ (Global Research Unit: GRU) เพื่อเสริมสร้างการขับเคลื่อนนโยบายที่อิงหลักฐานเชิงประจักษ์ ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ
ความสำคัญของฝ่ายวิจัยนานาชาติ
ปัจจุบัน การประเมินเทคโนโลยีด้านสุขภาพ (health technology assessment: HTA) ไม่ได้เพียงช่วยในการตัดสินใจคัดเลือกยาหรือบริการสุขภาพอื่น ๆ เพื่อเข้าสู่ระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ HTA ยังมีบทบาทที่กว้างขึ้น ทั้งเรื่องการจัดระบบบริการสุขภาพ การออกแบบโครงสร้างสุขภาพของประเทศ การส่งเสริมให้คนมีสุขภาพที่ดี รวมถึงนโยบายที่เกี่ยวเนื่องกับการทำงานของหน่วยงานหลายภาคส่วน
เพื่อตอบโจทย์ดังกล่าว HITAP จึงก่อตั้งฝ่ายวิจัยนานาชาติขึ้น เพื่อทำงานกับประเด็นเชิงนโยบายที่ HTA แบบดั้งเดิม (traditional HTA) ยังตอบโจทย์ได้ไม่ครบถ้วน พร้อมกับการออกแบบหรือปรับวิธีการใหม่ ๆ ที่ช่วยให้ได้ข้อมูลเชิงลึกอย่างทันท่วงทีและใช้ได้จริง “เป้าหมายของเราคือการเสริมความเข้มแข็งให้กับการกำหนดนโยบาย โดยการพัฒนาแนวทางและเครื่องมือที่ใช้งานได้จริงและเหมาะสมกับบริบทที่แตกต่างกัน ฝ่ายวิจัยนานาชาติให้ความสำคัญกับวิธีการทางวิชาการที่แม่นยำ แต่ยังสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศที่มีรายได้ปานกลางและรายได้ต่ำ” คุณ Siobhan Botwright หัวหน้าฝ่ายวิจัยนานาชาติกล่าว
ฝ่ายวิจัยที่เกิดขึ้นจากการทำงานร่วมกันของผู้เชี่ยวชาญหลากสาขา
ฝ่ายวิจัยนานาชาติกำลังขยายขนาดขึ้นเรื่อย ๆ โดยประกอบด้วยผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐศาสตร์สาธารณสุข การวิจัยระบบสุขภาพ ระบาดวิทยา การติดตามและประเมินผล การส่งเสริมสุขภาพ และการวิจัยเชิงคุณภาพ ที่ร่วมมือกันพัฒนาแนวทางให้ตรงกับความต้องการด้านนโยบายที่แท้จริง ฝ่ายวิจัยนานาชาติทำงานร่วมกับฝ่ายอื่น ๆ ใน HITAP รวมถึงหน่วยงานพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้มั่นใจว่าผลงานที่ออกมาจะสามารถนำประยุกต์ใช้ได้กับบริบทที่แตกต่างหลากหลาย
ด้วยเหตุนี้ นโยบายสุขภาพที่เกิดขึ้นจึงไม่ได้มาจากการอ้างอิงหลักฐานเชิงประจักษ์เพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถใช้ได้จริงและสร้างผลกระทบอย่างเป็นรูปธรรม นอกจากนี้ บทบาทของฝ่ายวิจัยนานาชาติยังสะท้อนให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของ HITAP ที่ขยายขอบเขตมากขึ้นไปสู่การผลักดันนวัตกรรม การสร้างเครือข่ายความร่วมมือที่เข้มแข็ง และการส่งมอบแนวทางแก้ไขที่สำคัญต่อระบบสุขภาพอย่างแท้จริง
การเปลี่ยนแปลงที่ฝ่ายวิจัยนานาชาติกำลังร่วมขับเคลื่อน
ฝ่ายวิจัยนานาชาติได้เริ่มมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนนโยบายด้านสุขภาพที่สำคัญ ๆ แล้ว ดังนี้
- การผสานแนวคิด Systems Thinking เข้ากับ HTA:
- Systems Thinking คือเครื่องมือที่ใช้มองปัญหาเชิงนโยบายแบบองค์รวม โดยพิจารณาความเชื่อมโยงของปัจจัยต่าง ๆ ในระบบสุขภาพและภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง แทนการพิจารณาแยกเป็นรายส่วน จึงช่วยให้เข้าใจว่าการเปลี่ยนแปลงนโยบายหนึ่งอาจส่งผลต่อส่วนอื่นของระบบอย่างไร และช่วยในการออกแบบนโยบายที่สอดคล้องกับบริบทจริงมากยิ่งขึ้น
- Systems Thinking จะช่วยอธิบายว่า เพราะเหตุใดบางนโยบายจึงยังไม่บรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งใจไว้ ฝ่ายวิจัยนานาชาติได้นำแนวคิดนี้มาพัฒนา system dynamics model ซึ่งมีส่วนสำคัญกับนโยบายการบำบัดทดแทนไตของไทยในปี พ.ศ. 2567 (อ่านบทความวิจัยตีพิมพ์ได้ที่นี่)
- ปัจจุบัน Systems Thinking กำลังถูกนำไปใช้ในโครงการอื่น ๆ อาทิ การผ่าตัดคลอด โครงการสุขภาพแม่และเด็กสำหรับแรงงานข้ามชาติ การประเมินระบบ HTA รวมถึงการทบทวนแผนยุทธศาสตร์ชาติว่าด้วยการจัดการด้านการดื้อยาต้านจุลชีพของประเทศไทยในช่วงกลางของแผนงาน นอกจากนี้ ฝ่ายวิจัยนานาชาติกำลังจัดทำเนื้อหาเกี่ยวกับ Systems Thinking ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของคู่มือด้าน HTA ของประเทศไทยอีกด้วย เพื่อช่วยส่งเสริมแนวปฏิบัติที่ดีในระยะยาว
- การรวบรวมความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญอย่างเป็นระบบ:
- ในกรณีที่ข้อมูลเชิงประจักษ์ยังมีจำกัดหรือไม่เพียงพอต่อการตัดสินใจเชิงนโยบาย ผู้กำหนดนโยบายมักต้องอาศัยความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญ ฝ่ายวิจัยนานาชาติจึงได้พัฒนา Delphi method ซึ่งเป็นแนวทางการรวบรวมความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญอย่างเป็นระบบ โดยใช้กระบวนการแลกเปลี่ยนและทบทวนความเห็นเป็นรอบ ๆ เพื่อให้ได้ฉันทามติที่รอบคอบและน่าเชื่อถือ ภายใต้ข้อจำกัดด้านเวลาและทรัพยากร
- นอกจากนี้ ฝ่ายวิจัยนานาชาติกำลังจะจัดอบรมเกี่ยวกับ Delphi method ภายในหน่วยงาน เพื่อนำไปปรับใช้กับโครงการต่าง ๆ ของ HITAP อีกด้วย
- การขยายการประเมินความคุ้มค่าทางการแพทย์และสาธารณสุขไปสู่นโยบายบำบัดทดแทนไต:
- นโยบายการบำบัดทดแทนไตในหลายประเทศที่มีรายได้ปานกลางและรายได้ต่ำมักถูกกำหนดขึ้นโดยไม่มีการประเมินความคุ้มค่าฯ รองรับ หรือจำกัดอยู่เพียงการเปรียบเทียบทางเลือกเพียงไม่กี่รูปแบบเท่านั้น ทั้งที่การรักษาภาวะไตวายระยะสุดท้ายต้องใช้งบประมาณและทรัพยากรบุคลากรจำนวนมาก ซึ่งส่งผลต่อการจัดสรรทรัพยากรในระบบสุขภาพโดยรวม
- ฝ่ายวิจัยนานาชาติจึงร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติจัดทำแนวทางสำหรับแพทย์โรคไต บุคลากรทางการแพทย์ และผู้กำหนดนโยบายขึ้น เพื่อช่วยให้เข้าใจและนำการประเมินความคุ้มค่าฯ มาใช้ในการตัดสินใจเชิงนโยบายได้ง่ายและมั่นใจมากขึ้น (สามารถอ่านบทความฉบับเต็มเรื่อง “Guidelines for the Use of Economic Evaluation to Inform Policies around Access to Treatment for Kidney Failure” ได้ที่นี่)
- สาระสำคัญของแนวทางนี้คือการอธิบายบทบาทของการประเมินความคุ้มค่าฯ ในการสนับสนุนการตัดสินใจเชิงนโยบายด้านการบำบัดทดแทนไต พร้อมเสนอแนวทางการนำไปใช้ ตั้งแต่การตั้งคำถามวิจัย การประเมินและตีความผลลัพธ์ ไปจนถึงการประยุกต์ใช้ในการออกแบบบริการ กำหนดเงื่อนไขการเข้าถึง และจัดลำดับความสำคัญของทรัพยากรให้เหมาะสมกับบริบทและความพร้อมของแต่ละประเทศ
ทิศทางการทำงานในระยะต่อไป
“เป้าหมายสูงสุดของเราคือการสนับสนุนผู้กำหนดนโยบายและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้งในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับนานาชาติ ให้เข้าถึงองค์ความรู้ด้าน HTA ที่ทันสมัย เข้มแข็ง และเหมาะสมกับบริบท เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจเชิงนโยบายด้านสุขภาพ” คุณ Siobhan กล่าว พร้อมย้ำว่า วิสัยทัศน์ของฝ่ายวิจัยนานาชาติคือมุ่งผลักดันให้เกิดนโยบายที่มีประสิทธิผล เป็นธรรม และตั้งอยู่บนหลักฐานทางวิชาการ
ปัจจุบัน ฝ่ายวิจัยนานาชาติมุ่งพัฒนาองค์ความรู้ในประเด็นสำคัญต่อไปนี้
- Systems Thinking: แนวคิดที่ช่วยให้เข้าใจความเชื่อมโยงระหว่างนโยบายสุขภาพกับส่วนต่าง ๆ ของระบบสุขภาพและภาคส่วนอื่น
- การดื้อยาต้านจุลชีพ (Antimicrobial Resistance): พัฒนาวิธีประเมินนโยบายด้านการดื้อยาต้านจุลชีพในประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลาง
- การประเมินระบบ HTA: ออกแบบแนวทางประเมินระบบ HTA ให้สอดคล้องกับบริบทและเป้าหมายเฉพาะของแต่ละประเทศ มากกว่าการเทียบตามตัวชี้วัดมาตรฐาน
- ศาสตร์การดำเนินการ (Implementation Science): ศึกษาวิธีเชื่อมต่อระหว่างการตัดสินใจเชิงนโยบายกับการนำไปปฏิบัติให้เกิดผลจริงและยั่งยืน
- ความเสมอภาค: พัฒนาเครื่องมือเพื่อบูรณาการประเด็นความเสมอภาคและการมีส่วนร่วมให้ชัดเจนยิ่งขึ้นในกระบวนการกำหนดนโยบาย
- แนวทางใหม่ในการประเมินความคุ้มค่าฯ: ประยุกต์วิธีการประเมินความคุ้มค่าฯ เชิงนวัตกรรม เพื่อรองรับคำถามเชิงนโยบายที่กว้างและซับซ้อนยิ่งขึ้น
ร่วมขับเคลื่อนไปกับเรา
ฝ่ายวิจัยนานาชาติเปิดกว้างสำหรับความร่วมมือกับหน่วยงานด้าน HTA นักวิจัย และพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ “หากงานของท่านสอดคล้องกับประเด็นที่ฝ่ายเราให้ความสำคัญ เรายินดีอย่างยิ่งในการร่วมกันพัฒนาแนวทางที่จะสร้างผลกระทบเชิงนโยบายอย่างเป็นรูปธรรม” คุณ Siobhan กล่าว
สำหรับผู้ที่สนใจร่วมงานหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ [email protected]