รายงานวิจัยเสร็จสมบูรณ์

รายงานผลสัมฤทธิ์สำหรับทุนสนับสนุนงานมูลฐาน (Fundamental Fund) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

จำนวนเข้าชม
10
แชร์ รายงานวิจัยเสร็จสมบูรณ์นี้
รายละเอียดเพิ่มเติม
PDF
รายละเอียดเพิ่มเติม

ในปีงบประมาณ 2567 มูลนิธิเพื่อการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ (HITAP) ได้รับงบประมาณจำนวน 29,976,000 บาท จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ภายใต้ทุนวิจัยมูลฐาน เพื่อดำเนินการวิจัยที่ส่งเสริมความเข้มแข็งของระบบวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมของประเทศ โดยมุ่งเน้นการวิจัยเชิงนโยบาย การสร้างองค์ความรู้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางข้อมูล และการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมจากภาคส่วนต่างๆ ในสังคมไทย

การดำเนินงานครอบคลุม 3 แผนงานหลัก ได้แก่ 1) การพัฒนานวัตกรรมด้านสุขภาพโดยใช้แนวทางการประเมินเทคโนโลยีสุขภาพในระยะเริ่มต้น (early HTA) เพื่อสนับสนุนผู้พัฒนานวัตกรรมไทย 2) การพัฒนาและประเมินชุดสิทธิประโยชน์ภายใต้ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทั้งในส่วนของยาและสิทธิประโยชน์ที่ไม่ใช่ยา โดยใช้กระบวนการที่เป็นระบบ โปร่งใส และมีหลักฐานทางวิชาการรองรับ และ 3) การเสริมสร้างธรรมาภิบาลและประสิทธิภาพในการบริหารจัดการงานวิจัยและนวัตกรรมภายในองค์กร

ทั้งนี้ HITAP ตัดสินใจดำเนินโครงการภายใต้แต่ละแผนงานโดยพิจารณาจากปัจจัยหลัก 2 ข้อ คือ โครงการดังกล่าวต้องสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ พันธกิจ และยุทธศาสตร์หลักของ HITAP และโครงการดังกล่าวต้องมีวัตถุประสงค์และการดำเนินงานที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของแผนงานนั้น ๆ การพิจารณาข้อเสนอแผนงานและโครงการเป็นกระบวนการที่มีความยืดหยุ่นและเปิดกว้าง แต่ยังคงมุ่งเน้นคุณค่าทางวิชาการ ผลกระทบเชิงนโยบาย และศักยภาพในการนำไปใช้จริง เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อระบบสาธารณสุขและบริบทของประเทศไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผลงานที่สำคัญในปีนี้ ได้แก่ งานวิจัยด้านการประเมินเทคโนโลยีสุขภาพ (HTA) จำนวน 12 เรื่อง และงาน early HTA จำนวน 6 เรื่อง พร้อมทั้งพัฒนาฐานข้อมูลสำคัญ 4 ฐานและแบบจำลองเศรษฐศาสตร์สุขภาพ 1 ระบบ เพื่อรองรับงาน HTA ในอนาคต นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาแบบจำลองเศรษฐศาสตร์สุขภาพ 1 ระบบ การจัดทำบทความวิชาการเพื่อตีพิมพ์ 13 เรื่อง และข้อเสนอเชิงนโยบาย 11 เรื่อง เพื่อนำองค์ความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม รวมถึงการผลิตสื่อเผยแพร่ความรู้จำนวน 34 ชิ้น ทั้งยังมีการจัดฝึกอบรมและเสริมสร้างขีดความสามารถของบุคลากรกว่า 200 คน ตลอดจนการจัดตั้งเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการทั้งในและต่างประเทศ และการพัฒนาระบบบริหารจัดการวิจัยและการติดตามประเมินผลกระทบของงานวิจัยอย่างเป็นรูปธรรม

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนการตัดสินใจเชิงนโยบายด้านสุขภาพอย่างมีประสิทธิภาพ ยั่งยืน และเป็นธรรม รวมถึงส่งเสริมให้ประเทศไทยก้าวสู่ความเป็นผู้นำในระดับภูมิภาคด้านการประเมินเทคโนโลยีสุขภาพ โดยการสร้างระบบที่ใช้หลักฐานเชิงวิชาการเป็นฐานในการกำหนดนโยบายสาธารณะ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชนและระบบสุขภาพไทยในระยะยาว

PDF