รายงานวิจัยเสร็จสมบูรณ์

รายงานฉบับสมบูรณ์ การพัฒนาแนวทางการประเมินเทคโนโลยีด้านยาเพื่อคัดเลือกเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ

จำนวนเข้าชม
18
แชร์ รายงานวิจัยเสร็จสมบูรณ์นี้
รายละเอียดเพิ่มเติม
งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
PDF
รายละเอียดเพิ่มเติม

ประเทศไทยมีการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติครั้งแรกใน พ.ศ. 2524 โดยมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติซึ่งมีวาระครั้งละ 3 ปี เพื่อทำหน้าที่พิจารณาและคัดเลือกรายการยา รวมถึงปรับปรุงบัญชียาหลักแห่งชาติให้มีความเหมาะสมและทันสมัย ปัจจุบันการคัดเลือกยาเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติในรอบ พ.ศ. 2565-2567 มีหลักเกณฑ์ในการพิจารณายา คือ ต้องอาศัยข้อมูลเชิงประจักษ์ (evidence-based) ด้านความปลอดภัย ประสิทธิศักย์และ/หรือประสิทธิผล ร่วมกับความเห็นของผู้เชี่ยวชาญและผู้มีส่วนร่วมในสังคม มีระบบการประเมินความคุ้มค่าและผลกระทบทางการเงิน มุ่งหวังให้เกิดความเป็นธรรมระหว่างประชาชนกลุ่มต่าง ๆ โดยให้เหมาะสมกับบริบทของระบบสุขภาพ สังคม และเศรษฐกิจของประเทศไทย

การประเมินเทคโนโลยีด้านสุขภาพ (health technology assessment หรือ HTA) เป็นกระบวนการวิจัยเพื่อศึกษาผลกระทบเชิงบวกและเชิงลบทั้งทางตรงและทางอ้อมในการใช้เทคโนโลยีหนึ่ง ๆ ซึ่งเป็นกระบวนการที่มีความสำคัญเพื่อส่งเสริมการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด มีการนำข้อมูลด้านเศรษฐศาสตร์สาธารณสุข (health economic evaluation) มาใช้เพื่อประกอบการตัดสินใจเชิงนโยบายพิจารณาคัดเลือกยาเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ ส่งผลให้กองทุนในระบบประกันสุขภาพสามารถบริหารจัดการงบประมาณกองทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความยั่งยืน จะเห็นได้ว่างานวิจัยในลักษณะนี้ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ประชาชนไทยสามารถเข้าถึงยาที่มีประสิทธิภาพได้อย่างเท่าเทียม ก่อให้เกิดเสถียรภาพและความเป็นธรรมในระบบประกันสุขภาพ

โครงการ “การพัฒนาแนวทางการประเมินเทคโนโลยีด้านยาเพื่อคัดเลือกเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ” มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำกระบวนการประเมินเทคโนโลยีด้านสุขภาพของรายการยาที่ได้รับมอบหมายจากคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ สำหรับประกอบการพิจารณาคัดเลือกยาเพื่อบรรจุไว้ในบัญชียาหลักแห่งชาติ โดยมีวัตถุประสงค์ย่อย ดังนี้ 1) เพื่อจัดทำข้อมูลการประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์และผลกระทบด้านงบประมาณของรายการยาเพื่อใช้ในการต่อรองราคายาและพิจารณาคัดเลือกรายการยาเพื่อบรรจุไว้ในบัญชียาหลักแห่งชาติ 2) เพื่อจัดทำสื่อเผยแพร่กระบวนการประเมินเทคโนโลยีด้านสุขภาพและขั้นตอนการพิจารณา 3) เพื่อทำการประเมินผลการเข้าถึงรายการยาราคาแพง 4) การบริหารจัดการทรัพยากรผ่านการพัฒนาบุคลากรและเครือข่ายการวิจัยเพื่อส่งเสริมให้เกิดระบบที่น่าเชื่อถือ โปร่งใส ผ่านการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย

คณะผู้วิจัยได้ดำเนินโครงการ ดังนี้ 1) การศึกษาโครงการประเมินความคุ้มค่าและผลกระทบด้านงบประมาณของรายการยาที่ได้รับมอบหมายจากคณะอนุกรรมการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ และคณะทำงานยุทธศาสตร์การพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ 3 โครงการ ได้แก่ การประเมินความคุ้มค่าของยาดีโนซูแมบสำหรับการรักษาผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง การประเมินความคุ้มค่าของยาดีโนซูแมบสำหรับการรักษาผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาด้วยยาในกลุ่มบิสฟอสโฟเนต และการศึกษาความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์และผลกระทบงบประมาณของยา imiglucerase ในการรักษาโรคโกเช่ร์ชนิดที่ 1 และ 3 2) การดำเนินโครงการต่าง ๆ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการวิจัยด้านการประเมินเทคโนโลยีด้านสุขภาพ ได้แก่ โครงการจัดทำฐานข้อมูลอรรถประโยชน์ (Utility Database), การจัดทำฐานข้อมูล HTA registry, โครงการวิจัยเรื่อง Distributional cost-effectiveness analysis (DCEA), การศึกษาต้นทุนต่อหน่วยบริการและการเตรียมพร้อมในการเข้าร่วมโครงการของผู้ให้บริการในหน่วยนวัตกรรม และการประเมินส่วนแบ่งผลได้ทางสุขภาพระหว่างระบบสุขภาพและภาคอุตสาหกรรมของยาราคาแพงในประเทศไทย รวมถึงดำเนินโครงการปรับปรุงแนวทางการประเมินเทคโนโลยีด้านยา และพัฒนาเครื่องมือประเมินคุณภาพงานวิจัยสำหรับการประเมินความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์สาธารณสุขเพื่อคัดเลือกเข้าสู่บัญชียาหลักแห่งชาติ (rubric score) 3) โครงการเพื่อพัฒนาศักยภาพนักวิจัยรุ่นใหม่ และสร้างเครือข่ายนักวิจัยด้านเศรษฐศาสตร์สาธารณสุขทั้งในและต่างประเทศผ่านการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการ การจัดประชุมวิชาการ/สัมมนา และการเข้าร่วมอบรม/ประชุมวิชาการต่าง ๆ และพัฒนาสื่อประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวกับกระบวนการพัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ เพื่อสร้างความรับรู้และเข้าใจกับบุคลากรสาธารณสุขและประชาชนที่สนใจ

PDF