เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2559 HITAP ได้จัดประชุมผู้เชี่ยวชาญเพื่อนำเสนอผลการศึกษาเชิงสังเกต การประเมินความปลอดภัยและประสิทธิผลของการใช้ bevacizumab (IVB) และ ranibizumab (IVR) ทางการฉีดเข้าวุ้นตาในการรักษาผู้ป่วยโรคจอตา โดยมีผู้เข้าร่วมอภิปรายและให้ข้อเสนอแนะต่อผลการศึกษารวมถึงข้อเสนอแนะเชิงนโยบายจากหน่วยงานต่าง ๆได้แก่ จักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันที่เข้าร่วมโครงการวิจัย ตัวแทนจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และตัวแทนจากสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ซึ่งเป็นหน่วยงานผู้ให้ทุน
จากการติดตามอาสาสมัครนาน 6 เดือนพบว่าการใช้ IVB ในระยะสั้นนั้นมีความปลอดภัย โดยพบอัตราการเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรงซึ่งเป็นข้อกังวลจากการศึกษาก่อนหน้าโดยเฉพาะภาวะลิ่มเลือดอุดตันและการติดเชื้อในลูกตา (endophthalmitis) ต่ำ และความเสี่ยงเหล่านี้ไม่แตกต่างจากการรักษาด้วย IVR
อย่างไรก็ตาม พบว่าผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวบางอย่างจะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นได้ ด้านประสิทธิผล พบว่ายาทั้งสองชนิดมีประสิทธิผลในการรักษาโรคจอตาและโรคจุดภาพชัดของจอตาเสื่อมจากเหตุสูงวัย ชนิดที่มีหลอดเลือดงอกผิดปกติและโรคจุดภาพชัดบวมน้ำจากโรคเบาหวานไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้ยังพบว่า IVB ยังมีประสิทธิผลในการรักษาโรคจุดภาพชัดบวมน้ำจากหลอดเลือดดำจอตาอุดตันอีกด้วย
ดังนั้น IVB จึงอาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการรักษาโรคจอตาในราคาที่สังคมไทยสามารถจ่ายได้เมื่อเปรียบเทียบกับ IVR
อีกทั้ง การพิจารณาใช้ IVB เป็นทางเลือกแรกสำหรับการรักษาโรคจอตาในผู้ป่วยจากระบบประกันสุขภาพทั้งสามกองทุน จะช่วยประหยัดงบประมาณลงเป็นอย่างมากและสามารถจัดสรรเงินจำนวนนี้เพื่อลงทุนในโครงการที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันแก้ไขปัญหาสายตาเลือนราง ตาบอด ให้เกิดความคุ้มค่าอื่นๆสูงสุด


งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
211-372-2555(1)
การทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบและการวิเคราะห์อภิมานของการใช้ยา Bevacizumab (Avastin®) ในการรักษาโรคจุดภาพชัดของจอตา
นักวิจัย
นพ.ธนภัทร รัตนภากร, รศ. ดร. พญ.ธัญญรัตน์ อโนทัยสินทวี, ดร. ภญ.พัทธรา ลีฬหวรงค์
211-372-2555
การประเมินความปลอดภัยและประสิทธิผลของการฉีด bevacizumab และ ranibizumab เข้าวุ้นตาในการรักษาผู้ป่วยโรคจอตา: การศึกษาเชิงสังเกต
นักวิจัย
ดร. ภญ.สุธาสินี คำหลวง, ดร. ภญ.ศิตาพร ยังคง, ผศ. ดร. ภญ.อุษา ฉายเกล็ดแก้ว, ดร. ภญ.พัทธรา ลีฬหวรงค์, ภญ.เสริมสิริ แสงรุ่งเรืองศรี