ข่าวสาร

สธ. บุกจับโรงงานผลิตยาปลอมรายใหญ่ 11 รายการ ย่านบางขุนเทียน ส่งขายตามแนวจังหวัดชายแดน มูลค่าของกลางกว่า 20 ล้านบาท

จำนวนเข้าชม

60
แชร์ข่าวสารนี้

สธ. บุกจับโรงงานผลิตยาปลอมรายใหญ่ 11 รายการ ย่านบางขุนเทียน

ส่งขายตามแนวจังหวัดชายแดน มูลค่าของกลางกว่า 20 ล้านบาท

เช้าวันนี้ (11 พฤศจิกายน 2553) ที่กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ พร้อมด้วยนายแพทย์พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา และพล.ต.ต.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ผบก.ปคบ.) แถลงข่าวการจับกุมโรงงานผลิตยาปลอม ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของกระทรวงสาธารณสุข ในการคุ้มครองความปลอดภัยของผู้บริโภคจากการใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ

นายจุรินทร์กล่าวว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้ร่วมกับตำรวจ  ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เข้าตรวจค้นโรงงานผลิตยาผิดกฎหมาย เมื่อวันอังคารที่ 9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งโรงงานนี้เป็น 1 ใน 2 โรงงานที่ผลิตยาผิดกฎหมายที่อยู่ในบัญชีดำของอย. โรงงานแรกได้ดำเนินการจับกุมดำเนินคดีไปแล้วเมื่อไม่นานนี้ ซึ่งเป็นโรงงานผลิตยาผิดกฎหมายส่งขายตามร้านขายยาหลายแห่งทั่วประเทศ สำหรับโรงงานนี้ ชื่อ บริษัทเภสัชกรรมเรมี่ฟาร์ม จำกัด ตั้งอยู่ที่เขตบางขุนเทียน กทม. เป็นโรงงานยาขนาดใหญ่ ผู้ดำเนินกิจการ ชื่อนางสาวพัณณ์ชิตา สิทธิกุลชัยโย และจากการตรวจค้นพบว่าเป็นโรงงานที่ผลิตยาไม่ได้มาตรฐานจีเอ็มพี นอกจากนั้นยังผลิตยาที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยาจำนวน 8 รายการ และผลิตวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทปลอม 3 รายการ ส่งขายตามร้านค้าส่งยาตามแนวจังหวัดชายแดน มูลค่าเบื้องต้นประมาณ 20 ล้านบาท  

ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ยาและวัตถุออกฤทธิ์ที่ตรวจพบผิดกฎหมาย 5 รายการ ดังนี้ 1. เลขทะเบียนยาปลอม 2.ยาไม่มีเลขทะเบียน ไม่มีชื่อผู้ผลิต ระบุเพียง Made in Thailand 3.ใช้เลขทะเบียนผู้อื่น เครื่องหมายปลอม แจ้งสถานที่จัดจำหน่ายไม่มีตัวตน 4.วัตถุออกฤทธิ์ฯ ปลอมเครื่องหมายการค้า 5.วัตถุออกฤทธิ์ฯไม่มีทะเบียน ไม่มีชื่อผู้ผลิต ระบุเพียง Made in Thailand

สำหรับยาปลอมที่โรงงานแห่งนี้ทำการผลิต 8 รายการ   ได้แก่1. เฟอรัส ซัลเฟต (FERROUS SULFATE) 200 มก. 2. วิตามิน บีคอมเพล็กซ์ วิตามิน บี 1, บี 2, บี6( VITAMIN B-COMPLEX SUGAR COATED) 3. ยาเม็ดวิตามินบี 12 ประกอบด้วย ไซยาโนโคมาลามิน 25 ไมโครกรัม ฉลากแจ้งสรรพคุณบำรุงโลหิต รักษาโรคโลหิตจาง อันเนื่องมาจากขาดวิตามินบี 12 4. ยาเม็ด แล็คเฟล็ก (Lakflex) เป็นยาปฏิชีวนะใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อระบบทางเดินหายใจ 5.ยาคลอมิน (CHLORMIN) แคปซูล ไม่มีเลขทะเบียน ใช้เป็นยาแก้แพ้ ลดน้ำมูก 6.ยาเด็กซ่าเมทาโซน ชนิดเม็ด (DEXAMETHASONE TABLETS 1000) เป็นยาที่ไม่มีเลขทะเบียน แต่ระบุ Made in Thailand 7.ยาเม็ดสีเหลือง 5 เหลี่ยม บรรจุอยู่ในซองพลาสติก เป็นยาที่ไม่มีฉลากสรรพคุณ อยู่ระหว่างเตรียมบรรจุลงขวดเป็นยาสำเร็จรูป    8.ยาเม็ดสีเหลือง 4 เหลี่ยม บรรจุในขวด ไม่มีฉลาก

ประเภทวัตถุออกฤทธิ์ปลอม 3 รายการ ได้แก่ 1.ยาคลอราซีเปท ไดโปแทสเซียม (Clorazepate dipotassium) รักษาอาการวิตกกังวล เป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 4 ปลอม โดยปลอมแหล่งผลิต/ แหล่งจำหน่าย/ทะเบียนถูกยกเลิกไปแล้ว     2.ยาเม็ดไดอะซีแปรม (Diazepam Tablets) เป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 4 ปลอม ที่ไม่เลขทะเบียนตำรับ         3.ยาดี- 5 (D-5)  เป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภท 4 ปลอม ที่ไม่มีเลขทะเบียนตำรับ

นอกจากนี้ ยังพบยาที่อยู่ระหว่างการผลิต เป็นผงยาและแกรนูล เม็ดยา อยู่ระหว่างเคลือบและพร้อมเคลือบที่ใช้เตรียมผลิตยาสำเร็จรูป รวมทั้งพบ ขวดยาน้ำ ซึ่งมีการปิดฉลากเตรียมบรรจุยาน้ำ, ฉลากยาที่ไม่ถูกต้อง,อุปกรณ์ในการผลิตยาหลายรายการ อาทิ เครื่องเคลือบยา, เครื่องซีลพลาสติกใส โดยเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่จึงยึดของกลาง พร้อมอายัดวัตถุดิบ อุปกรณ์การผลิต เครื่องตอก เครื่องโม่ และ เครื่องจักรในการผลิตยาทั้งหมดในโรงงานดังกล่าว

นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า จะดำเนินคดี 7 ข้อหา คือ1.กรณีผลิตและขายยาโดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนตำรับยา มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 5,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2.กรณีผลิตยาปลอม มีโทษจำคุก ตั้งแต่ 3 ปี – ตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 10,000 – 50,000 บาท 3.กรณีขายยาปลอม มีโทษจำคุก ตั้งแต่ 1- 20 ปี และปรับตั้งแต่ 2,000- 10,000 บาท 4.กรณีผลิตและขายวัตถุออกฤทธิ์ฯประเภท 4 โดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน 100,000 บาท 5.กรณีผลิตวัตถุออกฤทธิ์ฯปลอม มีโทษจำคุกตั้งแต่ 5-15 ปี และปรับตั้งแต่ 100,000 – 300,000 บาท 6. กรณีขายวัตถุออกฤทธิ์ฯปลอม มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 – 200,000 บาท และ7.กรณีผลิตยาแผนปัจจุบันโดยฝ่าฝืนกฎกระทรวงฯ และประกาศกระทรวงสาธารณสุขฯ มีโทษปรับตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท

นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า ขอย้ำเตือนผู้ที่คิดจะผลิตยาปลอมออกมาจำหน่าย ขอให้เลิกทำ เพราะนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขชัดเจนว่าจะขจัดความไม่ถูกต้องเหล่านี้ให้หมดไป รวมทั้ง อย. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อคุ้มครองผู้บริโภคและดำเนินการกับผู้ผลิตที่ขาดคุณธรรม จริยธรรมและขาดความรับผิดชอบต่อสังคม สำหรับผู้บริโภคและพลเมืองดีสามารถมีส่วนร่วม โดยแจ้งเบาะแส หากพบเบาะแสการผลิต จำหน่าย ยา เครื่องสำอาง อาหารเครื่องมือแพทย์ ผลิตภัณฑ์สุขภาพต่างๆ สามารถแจ้งมาที่หมายเลขโทรศัพท์ 1556 หรือศูนย์เฝ้าระวังและรับเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ และขณะนี้มีรางวัลนำจับให้ด้วย ไม่ต้องรอผลการตัดสินของศาล จ่ายให้ทันทีที่ตรวจพบว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผิดกฎหมายจริง

นายจุรินทร์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา อย.มีการจับกุมดำเนินคดีอย่างต่อเนื่องมาตลอดทั้งปี พบว่าการกระทำผิดกฎหมายลดน้อยลง เพราะเป็นนโยบายที่ทำจริงและจับกุมดำเนินคดีจริง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร ยา เครื่องสำอาง วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท วัตถุอันตรายต่าง ๆ แต่ที่ยังมีหลงเหลืออยู่บ้าง ไม่ได้เกิดจากการด้อยประสิทธิภาพในการดำเนินงาน ต้องยอมรับว่าส่วนหนึ่งเกิดจากความเห็นแก่ตัวและความไม่รับผิดชอบต่อสังคมของผู้ประกอบการ การขาดคุณธรรม จริยธรรมยังคงมีอยู่ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการต่อไป ช่วงที่ผ่านมาสามารถจับกุมได้เป็นจำนวนมาก เกิดจากประชาชนผู้บริโภคมั่นใจกับนโยบายและการทำงานของกระทรวงสาธารณสุข จึงแจ้งเบาะแสมาเป็นจำนวนมาก เมื่อตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีมูลมีการดำเนินการจริงทุกราย เพราะฉะนั้นสิ่งที่ประชาชนแจ้งเข้ามาจะไม่สูญเปล่า เช่นน้ำปลาปลอม ยาปลอมหลายกรณีที่มาจากความร่วมมือของผู้บริโภค ถือว่างานมีความก้าวหน้าและมีประสิทธิภาพพอสมควร และหวังว่าประชาชนจะให้ความร่วมมือมากขึ้น นายจุรินทร์กล่าว

ด้านนายแพทย์พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า ขอฝากเตือนไปยังร้านขายยาที่จำหน่ายในประเทศขอให้ช่วยตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่จำหน่าย ว่ามีการผลิตจากโรงงาน เภสัชกรรมเรมี่ฟาร์ม หรือไม่ หากตรวจพบต้องหยุดจำหน่ายและทำลายหรือส่งให้กับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด เพราะถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ผิดกฎหมาย ผู้ที่จำหน่ายถือว่ามีความผิดร่วมด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก กระทรวงสาธารณสุข

คำค้น
ผู้เขียน
HITAP