การประเมินโครงการนำร่องการตรวจกรองกลุ่มอาการดาวน์ในหญิงตั้งครรภ์

หน้าแรก > งานวิจัย > ยุทธศาสตร์ที่: 3 ประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพเพื่อตอบสนองความต้องการของสังคม > การประเมินโครงการนำร่องการตรวจกรองกลุ่มอาการดาวน์ในหญิงตั้งครรภ์

รหัสโครงการ

11-3-100-2559

คณะผู้วิจัย

นักวิจัยหลัก

ภญ.พิศพรรณ วีระยิ่งยง

นักวิจัยร่วม

ดร. จอมขวัญ โยธาสมุทร

ศรวณีย์ อวนศรี

ศุภวรรธน์ เพิ่มผลสุข

ณัฐธิดา มาลาทอง

รายละเอียดโครงการ

ยุทธศาสตร์

ยุทธศาสตร์ที่: 3 ประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพเพื่อตอบสนองความต้องการของสังคม

เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง

ระบบบริการ

หน่วยงานสนับสนุน

สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)

คำค้น

Country

ระยะเวลาโครงการ

เริ่ม: 1 มกราคม 2559
สิ้นสุด: 30 กันยายน 2559

ติดต่อ

[email protected]

สถานะงานวิจัย

งานวิจัยเสร็จสิ้น - 100%

จำนวนผู้เข้าชม: 3887 คน

วันที่เผยแพร่ 19 กุมภาพันธ์ 2559 10:23

เกี่ยวกับโครงการ

โครงการประเมินการจัดบริการตรวจกรองกลุ่มอาการดาวน์ในหญิงตั้งครรภ์ในโครงการนำร่องการป้องกันและควบคุมกลุ่มอาการดาวน์ (ดำเนินการนำร่องใน 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำพูน นครสวรรค์ ขอนแก่น สงขลาและศูนย์อนามัย 1 ศูนย์ ได้แก่ ศูนย์อนามัยที่ 12 จังหวัดยะลา เพื่อประเมินการจัดระบบบริการตรวจกรองกลุ่มอาการดาวน์ในหญิงตั้งครรภ์ในจังหวัดนำร่อง สำหรับขยายการดำเนินงานไปยังจังหวัดอื่นๆ รวมถึงประเมินผลการปฏิบัติงาน ผลลัพธ์การจัดบริการตรวจกรองกลุ่มอาการดาวน์ การจัดบริการการตรวจกรองกลุ่มอาการดาวน์เปรียบเทียบกับแนวทางปฏิบัติของแต่ละจังหวัด แนวทางปฏิบัติที่แนะนำโดยราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย การศึกษานี้มีทั้งการเก็บข้อมูลเชิงปริมาณและคุณภาพที่มีผลต่อความสำเร็จของการจัดบริการตรวจกรองกลุ่มอาการดาวน์ทั้งในส่วนของผู้รับบริการและผู้ให้บริการ ในสถานบริการที่มีผลการตรวจกรองที่ต่ำกว่าเกณฑ์และสูงกว่าเกณฑ์ รวมทั้งทบทวนเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการตรวจกรองกลุ่มอาการดาวน์ ซึ่งจะทำให้ทราบระบบบริหารจัดการและระบบบริการตรวจกรองกลุ่มอาการดาวน์อาการดาวน์ ปัญหา อุปสรรคให้การดำเนินงาน ปัจจัยหรือองค์ความรู้ที่ต้องการในการส่งเสริมการดำเนินงาน โดยข้อมูลทั้งหมดจะพัฒนาเป็นข้อเสนอแนวทางการจัดบริการตรวจกรองกลุ่มอาการดาวน์อาการดาวน์ในหญิงตั้งครรภ์ในจังหวัดนำร่อง และนำเสนอต่อสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเพื่อใช้เป็นข้อมูลในการเตรียมความพร้อม ระบบบริหารจัดการและระบบบริการสำหรับขยายการดำเนินการไปยังจังหวัดอื่น