logo
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายสื่อสารองค์กร HITAP

สธ. ขยายเวลาฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ออกไปอีก 1 เดือนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2554

http://www.moph.go.th/ops/iprg/include/admin_hotnew/show_hotnew.php?idHot_new=40622

        เช้าวันนี้ (6 กันยายน 2554)นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นำคณะแพทย์ พยาบาล จากสถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค กระทรงสาธารณสุข จำนวน 10 คน พร้อมวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์ จำนวน 1,000 โดส ฉีดให้แก่เจ้าหน้าที่ บุคลากรของคณะรัฐมนตรี และสื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล

          นายวิทยา กล่าวว่า ขณะนี้เริ่มเข้าสู่ช่วงปลายฝนต้นหนาว การระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาลมีแนวโน้มลดน้อยลงกว่าช่วงฤดูฝน แต่ยังสามารถพบการระบาดได้ สำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค รายงานผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่สะสมทั่วประเทศ ตั้งแต่ 1 มกราคม 2554 – 27 สิงหาคม 2554 พบผู้ป่วยแล้ว 26,527 ราย เสียชีวิต 6 ราย ยังไม่มีรายงานการระบาดเป็นกลุ่มก้อน อย่างไรก็ตามได้ให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนป้องกันตัวเองให้ปลอดภัยจากโรคไข้หวัดใหญ่ ด้วยการใช้หน้ากากอนามัย หากมีการการจัดกิจกรรมที่มีการรวมคนมากๆ


         ในการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ในปี 2554 นี้ กระทรวงสาธารณสุขได้จัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ชนิดรวม ป้องกันได้ 3 สายพันธุ์คือชนิด 2009 ชนิดบี และชนิดเอ (เอช 3 เอ็น 2) จำนวน 2 ล้าน 5 แสนโดส ฉีดให้กลุ่มเสี่ยง 2 กลุ่ม คือบุคลากรทางการแพทย์ ที่ต้องให้การดูแลรักษาผู้เจ็บป่วย และประชาชนที่เป็นกลุ่มเสี่ยง คือผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 โรค ได้แก่โรคปอด โรคหอบหืด โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตวายเรื้อรัง โรคมะเร็งที่ได้รับเคมีบำบัด และโรคเบาหวาน เริ่มฉีด 1 มิถุนายน 2554 จนถึงขณะนี้ไปแล้ว 2 ล้านโดส ยังเหลืออีก 5 แสนโดส ไม่เป็นไปตามเป้าที่กำหนดถึงสิ้นสิงหาคม 2554 เนื่องจากหลายจังหวัดประสบภัยน้ำท่วม ประชาชนเดินทางยากลำบากขึ้น จังหวัดที่กลุ่มเสี่ยงเข้ารับการฉีดน้อย ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ฉีดร้อยละ 51 สมุทรปราการ ร้อยละ 54 สระแก้วร้อยละ 62  ราชบุรี ร้อยละ 67 และแม่ฮ่องสอนร้อยละ 69  ได้ขยายเวลาฉีดออกไปอีก 1 เดือนจนถึงสิ้นเดือนกันยายน พร้อมให้ทุกจังหวัดเร่งประชาสัมพันธ์ ให้กลุ่มเป้าหมายเข้ารับบริการที่โรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศ  


          ทั้งนี้ โรคไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคติดต่อจากเชื้อไวรัส เชื้อจะแพร่กระจายอยู่ในลมหายใจ เสมหะ น้ำลาย น้ำมูกและติดอยู่ตามสิ่งของเครื่องใช้ของผู้ป่วย อาการเริ่มจากมีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว มีน้ำมูก  ไอจาม เบื่ออาหาร และอ่อนเพลีย หากประชาชนมีอาการดังกล่าว ขอให้หยุดพักผ่อนอยู่บ้านประมาณ 5-7 วัน อาการจะค่อยๆ ดีขึ้น แต่หากอาการไม่ดีขึ้น ไข้ยังไม่ลดภายใน 2 วัน ขอให้สงสัยว่าเป็นโรคไข้หวัดใหญ่ ควรไปพบแพทย์ทันที  สำหรับวิธีป้องกันโรค ทำได้โดยการออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ครั้งละประมาณ 30 นาที รับประทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น พักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย และหลีกเลี่ยงไปอยู่ในที่แออัด คนรวมตัวกันหนาแน่น แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ให้ใช้หน้ากากอนามัย

7 กันยายน 2554

Next post > สธ. พัฒนาระบบเยียวยาใจผู้ได้รับผลกระทบกว่า 2 หมื่นราย จากเหตุไม่สงบ 4 จังหวัดชายแดนใต้ 7 ปี ในปีนี้พบเหยื่อความรุนแรงเป็นโรคพีทีเอสดี ร้อยละ 13

< Previous post นักวิจัย HITAP นำเสนอ “ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการป้องกันมะเร็งปากมดลูก” ในการเสวนาที่รัฐสภา

Related Posts

HITAP เป็นข่าว ล่าสุด