logo
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายสื่อสารองค์กร HITAP

เสนอตั้งด่านหน้าผับ วัดแอลกอฮอล์ ลดอุบัติเหตุ

http://www.manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9530000160933

    จากกรณีที่ ส.ต.ท.ดำเนินสิน ไกรชมสม อายุ 27 ปี ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สน.บางเสาธง กรุงเทพฯ เสียชีวิตจากการที่ถูกนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งเมาแล้วขับรถยนต์ชนขณะปฏิบัติหน้าที่เมื่อวันกลางดึกของวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นนางสาวดวงใจ เกตุวงษ์ ภรรยากำลังตั้งท้องได้ 7 เดือน โดยความคืบหน้าของการช่วยเหลือครอบครัวของตำรวจชั้นผู้น้อยรายนี้นั้น ได้รับการเปิดเผย นางธนาภา กัมทาสุวรรณ มารดาของ ส.ต.ท.ดำเนินสิน ให้สัมภาษณ์ว่า ในส่วนของการช่วยเหลือของคู่กรณีนั้นได้รับค่าทำขวัญในช่วงแรกแล้ว 2 หมื่นบาทเท่านั้น แต่ถึงตอนนี้ยังไม่ได้รับเงินชดเชยจากบริษัทประกันของคู่กรณีที่ทำ พ.ร.บ.ประกันภัยรถยนต์ไว้ โดยตนได้เรียกเงินชดเชยจากคู่กรณีเป็นเงินจำนวน 8 ล้านบาท ซึ่งถือว่าไม่มากเท่ากับความสูญเสียที่ตน และครอบครัวของลูกชายได้รับ เพราะภรรยาของเขาก็เพิ่งคลอดลูกชายเมื่อวันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยตั้งชื่อว่า “ด.ช.นักรบ” ก็จะนำเงินช่วยให้หลานที่เพิ่งคลอดมีหลักประกันในการมีชีวิตที่ไร้พ่อได้อย่างอุ่นใจต่อไป ทั้งนี้ เงินชดเชยดังกล่าวเป็นการคิดคำนวณโดยนำเงินเดือนปัจจุบันของลูกชายคูณกับอายุราชการของเขาที่เหลืออีกตั้ง 33 ปี แต่ทั้งนี้ ทางพนักงานของบริษัทประกันดังกล่าว ระบุว่า จ่ายเงินชดเชยได้เพียง 4-5 แสนบาทเท่านั้น เพราะระเบียบกำหนดไว้ แต่ถ้ามากกว่านั้นต้องถามหัวหน้าและต้องดูรายละเอียดอีกมาก
       
       ด้าน นางสาวดวงใจ เกตุวงษ์ ภรรยาของ ส.ต.ท.ดำเนินสิน กล่าวว่า ห่วงอนาคตและการศึกษาของลูกที่เพิ่งคลอด อยากให้เขามีอนาคต มีการศึกษาที่ดี รวมทั้งอยากฝากถึงผู้ขับรถทุกคนว่าหากคุณรู้ว่าตัวเองเมาควบคุมสติไม่ได้ก็ไม่ควรขับรถ เพราะนอกจากจะทำให้เกิดอุบัติเหตุแล้วยังทำให้เกิดการสูญเสียมากมาย อย่างเช่น กรณีของตัวเอง เพราะสามีเป็นคนที่ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ แต่กลับต้องมาเสียชีวิต เพราะความประมาท จากการเมาแล้วขับ ทำให้ครอบครัวขาดเสาหลัก
       
       นางสาวศิริวรรณ หว่างรักษาวงศ์ ในฐานะคณะกรรมการตำรวจชุมชนสัมพันธ์ สถานีตำรวจนครบาลบางเสาธง และสมาชิกเครือข่ายเฝ้าระวังแอลกอฮอล์กรุงเทพ กล่าวว่า น่าเสียดายตำรวจคนนี้ที่เป็นคนดีมาก แต่ต้องจบชีวิต เพราะปัญหาการดื่มแล้วขับ ทั้งนี้ ปัญหาการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของกลุ่มวัยรุ่นโดยเฉพาะช่วงวันหยุดคืนวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ เป็นสิ่งที่น่ากังวลมาก และตนเชื่อว่า ประชาชนส่วนใหญ่คงได้พบเห็นกลุ่มวัยรุ่นไปเที่ยวตามสถานบันเทิงต่างๆในช่วงกลางคืนใน 3 วันดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันนับว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวยามวิกาลมากกว่าจำนวนสถานีตำรวจก็ว่าได้ จนทำให้เจ้าหน้าที่ดูแลไม่ทั่วถึง การตั้งด่านจึงไม่ครอบคลุมได้ทั้งหมด แต่เท่าที่ตนสังเกตพบว่ารอบๆ สถานบันเทิงหลายแห่งไม่มีการตั้งด่านดำเนินคดีกับผู้ที่เมาแล้วขับทั้งที่ตำรวจเองก็รู้ว่าต้องมีคนเมาแล้วขับอย่างแน่นอน จึงอยากให้ดูแลในจุดนี้เป็นสำคัญ
       
       ส่วนนายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ กล่าวว่า ปัญหาการเมาแล้วขับส่งผลกระทบโดยตรงต่อคนรอบข้าง จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกหน่วยงานควรช่วยกันสอดส่องดูแล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเร่งออกมาตรการบังคับใช้ เพื่อลดการบาดเจ็บและเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม จากวันนี้ไปจนถึงช่วงปีใหม่จะมีเทศกาลรื่นเริงที่มีตามปฏิทินที่จะมีนักดื่มออกมาดื่มแล้วขับกันมากขึ้น เริ่มตั้งแต่เทศกาลงานวันลอยกระทงในวันที่ 21 พ.ย.นี้ ซึ่งบางพื้นที่จะมีการจัดงานล่วงหน้าก่อนถึงวันลอยจริงเป็นสัปดาห์หรือ2สัปดาห์ เทศกาลวันคริสต์มาสในวันที่ 25 ธ.ค.แล้วก็วันปีใหม่ และนอกจากนั้นยังมีเทศกาลลานเบียร์ที่ไม่ได้เขียนในปฏิทินแต่ก็มีขึ้นทุกปีทั่วประเทศตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงปีใหม่ ดังนั้นจึงขอฝากให้เจ้าหน้าที่เข้มแข็งและเข้มงวดกับคนที่เมาแล้วขับในช่วงนี้จนถึงปีใหม่เป็นพิเศษด้วย

15 พฤศจิกายน 2553

Next post > “จุรินทร์”ยกระดับ รพ.มาบตาพุดเป็น 200 เตียง และตั้งสถาบันอาชีวเวชศาสตร์และเวชศาสตร์สิ่งแวดล้อมดูแลป้องกันผลกระทบสุขภาพและสิ่งแวดล้อม

< Previous post อหิวาต์คร่าชีวิต 10 ราย พบปัตตานีป่วยกว่า 1 พันราย

Related Posts

HITAP เป็นข่าว ล่าสุด