logo
ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อฝ่ายสื่อสารองค์กร HITAP

สธ. เตือนผู้ปกครองระวังเด็กเล็กติดเชื้อไวรัส “โรต้า” หน้าหนาว ปีที่แล้วพบป่วยกว่า 4 หมื่น

http://www.moph.go.th/ops/iprg/iprg_new/include/admin_hotnew/show_hotnew.php?idHot_new=34918

         วันนี้ (18 พฤศจิกายน 2553) ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ภัยหนาวที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยเดินทางไปตรวจเยี่ยมโรงพยาบาลวัดจันทร์เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา อำเภอกัลยาณิวัฒนา  พร้อมมอบเครื่องกันหนาวแก่ประชาชนและผู้สูงอายุ จำนวน 300 ชุด       

          ดร.พรรณสิริ กล่าวว่า ภัยหนาวในปีนี้ คาดว่าจะยาวนานกว่าทุกปี พื้นที่เสี่ยงสูงสุดคือภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เรื่องที่เป็นห่วงก็คือโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลัน โดยเฉพาะกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี จะป่วยเป็นโรคนี้กันมากในช่วงฤดูหนาวทุกปี ในปีที่ผ่านมามีเด็กป่วยและอาการรุนแรงต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาล 46,500 ราย โดยสาเหตุเกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า โรต้า (Rota Virus) ซึ่งเชื้อนี้พบได้ทั่วโลก  เด็กที่ป่วยจะมีอาการคล้ายไข้หวัดนำมาก่อน ต่อมาจะถ่ายอุจจาระเป็นน้ำปนฟอง และมีกลิ่นเหม็นเปรี้ยว มีอาเจียนร่วมด้วย หากเป็นมากอาจทำให้เด็กขาดน้ำรุนแรง เสียชีวิตได้  ทั่วโลกมีรายงานเด็กป่วยจากเชื้อไวรัสชนิดนี้ปีละกว่า 125 ล้านราย เสียชีวิต 6 แสนกว่าราย 

 ดร.พรรณสิริกล่าวต่อว่า เชื้อไวรัสโรต้า ติดต่อกันง่ายมาก เชื้อจะออกมากับอุจจาระเด็กที่ป่วย ติดต่อกันโดยเชื้อปนเปื้อนในอาหารและน้ำดื่ม บางครั้งเชื้อติดอยู่กับของเล่นเด็ก เมื่อเด็กหยิบเข้าปากก็ติดเชื้อได้  ดังนั้นในการป้องกันเด็กป่วย ขอให้ผู้ปกครองหมั่นล้างมือให้เด็กบ่อยๆ ทำความสะอาดของเล่นเด็กบ่อยๆ เตรียมอาหารเด็กให้สุกด้วยความร้อน  ดื่มน้ำต้มสุก ส่วนแม่หลังคลอดแนะนำให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างน้อย 6 เดือน เนื่องจากนมแม่สะอาดที่สุด และเด็กจะได้รับภูมิต้านทานโรคจากแม่ จะไม่ป่วยง่าย        

          ทางด้านนายแพทย์ศิริศักดิ์ วรินทราวาท รองอธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวว่า ในการรักษาโรคอุจจาระร่วงจากเชื้อไวรัสโรต้าจะเหมือนกับโรคอุจจาระร่วงทั่วไป โดยให้เด็กกินอาหารเหลวให้บ่อยครั้งเช่น น้ำข้าวต้ม น้ำแกงจืด รวมทั้งกินนมแม่  หากเด็กกินนมผสม ควรผสมนมให้เจือจางลงครึ่งหนึ่ง จนกว่าเด็กจะมีอาการดีขึ้น หากเด็กยังถ่ายบ่อย ควรให้กินผงน้ำตาลเกลือแร่หรือที่เรียกว่า โออาร์เอส ให้เด็กดื่มทีละน้อย บ่อยๆ ดื่มให้หมดภายใน 1 วัน  และให้อาหารที่ย่อยง่าย อาการเด็กจะค่อยๆดีขึ้นเป็นปกติได้ภายใน 8-12 ชั่วโมง หากอาการไม่ดีขึ้น เช่น ถ่ายเหลวไม่หยุด เด็กซึมลง ปากแห้งมาก  ปัสสาวะสีเหลืองเข้ม ให้พาไปพบแพทย์โดยเร็ว

          นายแพทย์ศิริศักดิ์ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ยังมีประชาชนเข้าใจผิด มีการนำน้ำดื่มเกลือแร่ที่ใชสำหรับนักกีฬา มาให้ลูกดื่ม   เพราะเชื่อว่าเป็นชนิดเดียวกับผงน้ำตาลเกลือแร่หรือโออาร์เอส  นับว่าเป็นอันตรายมาก จะทำให้เด็กที่ท้องเสียอยู่แล้วขาดน้ำรุนแรงยิ่งขึ้น    และอาจทำให้ไตวายได้     เนื่องจากปริมาณเกลือแร่ที่ผสมในน้ำดื่มเกลือแร่สำหรับนักกีฬา จะมีความเข้มข้นสูงกว่าผงน้ำตาลเกลือแร่ที่ใช้รักษาโรคอุจจาระร่วง                  

19 พฤศจิกายน 2553

Next post > “สธ.” เผยองค์การอนามัยโลก การันตีวัคซีนป้องกันโรคหัดผลิตโดยองค์การเภสัชกรรมของไทย มีคุณภาพมาตรฐานสากล เป็นประเทศแรก

< Previous post ปัญหาบ้านเมืองกระทบต้นทุนชีวิตเด็กสร้างเด็กพันธุ์ใหม่ก้าวร้าวรุนแรง

Related Posts

HITAP เป็นข่าว ล่าสุด